วัตถุประสงค์
- เพื่อศึกษาจลนศาสตร์ของปฏิกิริยาระหว่างโพแทสเซียมไดโครเมตกับเอทานอล
- เพื่อหาอันดับ ค่าคงที่อัตราและค่าครึ่งชีวิตของปฏิกิริยา
Download
- บทปฏิบัติการ [pdf]
- รายงานการทดลอง [pdf]
หลักการ
จลนศาสตร์เคมีเป็นการศึกษาถึงอัตราเร็วของการเกิดปฏิกิริยา (rate reaction) และกลไกการเกิดปฏิกิริยา อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะมายถึงการหายไปของสารตั้งต้นหรือการเพิ่มขึ้นของผลผลิตในช่วงเวลาหนึ่งๆ จะเป็นการวัดการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของสารตั้งต้นหรือสารที่เข้าทำปฏิกิริยากัน หรือสารผลิตภัณฑ์ในหนึ่งหน่วยเวลา โดยความเข้มข้นของสารตั้งต้นจะค่อย ๆ ลดลงไปในขณะที่ความเข้มข้นของสารผลิตภัณฑ์จะเพิ่มขึ้น ดังนั้นในการวัดอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี พิจารณาจากความเข้มข้นของสารตั้งต้นที่ลดลงหรือพิจารณาจากความเข้มข้นของสารผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นจะได้ว่าเนื่องจากอัตราการเกิดปฏิกิริยาในแต่ละช่วงเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นในการหาอัตราปฏิกิริยาที่ระยะเวลาใดเวลาหนึ่งในระหว่างการเกิดปฏิกิริยานั้นสามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของสารตั้งต้นหรือสารผลิตภัณฑ์ในช่วงเวลาที่กำหนดหรือหาได้จากความชันของเส้นกราฟของปฏิกิริยา ณ จุดที่สัมผัส
พิจารณาปฏิกิริยาเคมีทั่วไป aA + bB ↔ cC + dD สามารถเขียนสมการทางคณิตศาสตร์ของอัตราการเกิดปฏิกิริยาได้ เมื่อ a b c และ d เป็นจำนวนโมลของสาร A, B, C และ D ตามลำดับ
การเขียนกฎอัตราดิฟเฟอเรนเชียลนั้น เขียนเป็นผลคูณของความเข้มข้นที่ยกกำลัง อย่างเช่น ปฏิกิริยา
A + 2B ↔ 3C + D
จะเขียนได้ว่า rate = k[A]m[B]n
จากสมการ n และ m เป็นอันดับของปฏิกิริยาของสาร A และ B ตามลําดับ k เป็นค่าคงตัวอัตรา (rate constant) และอันดับของปฏิกิริยารวม (overall reaction order) จะเท่ากับ n+m ค่าของ n และ m นั้นหาได้จากการทดลอง อันดับของปฏิกิริยาจะเป็นเลขจำนวนเต็ม (1, 2, 3)
ค่าครึ่งชีวิตของปฏิกิริยา
ค่าครึ่งชีวิตของปฏิกิริยา (t1/2) หมายถึง เวลาที่ใช้ในการทำให้ความเข้มข้นของสารตั้งต้นลดลงไปครึ่งหนึ่งจากเริ่มต้น
ค่าอันดับของปฏิกิริยา ค่าคงที่อัตราการเกิดปฏิกิริยาและค่าครึ่งชีวิตของปฏิกิริยา สามารถหาได้จากกราฟ ความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มข้นกับเวลาที่เป็นเส้นตรง ดังตาราง
ตารางที่ 10.1 ความสัมพันธ์เส้นตรงของความเข้มข้น [A] กับเวลา (t)
อันดับ | สมการเส้นตรง | เขียนกราฟเส้นตรง | ค่าครึ่งชีวิต (t1/2) |
0 | [A] = [A]0 – kt | [A] กับ t | t1/2 = [A]0/2K |
1 | log [A] = log [A]0 – (kt/2.303) | log [A] กับ t | t1/2 = 0.693/K |
2 | 1/[A]0 = 1/A]0 + kt | 1/[A] กับ t | t1/2 = 1/[A]0K |
เมื่อ [A]0 = ความเข้มข้นเริ่มต้นของ A
[A] = ความเข้มข้นของ A ที่เวลา tในการทดลองนี้เป็นปฏิกิริยาระหว่างโพแทสเซียมไดโครเมต (K2Cr2O7) กับเอทานอล (C2H5OH) ในสภาวะที่เป็นกรด ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเขียนได้ดังนี้
2Cr2O72- + 28H+ + 12e– ↔ 4Cr3+ + 14H2O
3C2H5OH + 3H2O ↔ 3CH3COOH + 12H+ + 12e–
2Cr2O72- + 3C2H5OH + 16H+ ↔ 4Cr3+ + 3CH3COOH + 11H2O
จากสมการสามารถเขียนสมการอัตรา (rate equation) ได้เป็น
rate = k[Cr2O72-]m[C2H5OH]n[H+]o
ดังนั้น อันดับปฏิกิริยารวมเท่ากับ m+n+o แต่ถ้าในการทดลองให้ความเข้มข้นของกรดและเอทานอลมีค่าสูงกว่าความเข้มข้นของสารละลายโพแทสเซียมไดโครเมตมาก ๆ จนถือได้ว่าในขณะเกิดปฏิกิริยานั้นความเข้มข้นของกรดและเอทานอลไม่เปลี่ยนแปลง สมการ 10.4 สามารถเขียนได้ใหม่เป็น
rate = k’[Cr2O72-]m
เมื่อ k’ = k[C2H5OH]b[H+]c
ในการวัดอัตราการเกิดปฏิกิริยาในการทดลองนี้ จะกระทำโดยหาความเข้มข้นของสารละลาย K2Cr2O7 ที่เหลืออยู่ในช่วงเวลาต่าง ๆ โดยการเติมสารละลาย KI ลงไปหยุดปฏิกิริยาระหว่าง K2Cr2O7 กับ C2H5OH ปฏิกิริยาระหว่าง KI กับ K2Cr2O7 เป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
Cr2O72- + 14H+ + 6I– ↔ 2Cr3+ + 3I2 + 7H2O
แดงส้ม เขียวอ่อน น้ำตาล
จากนั้นไทเทรตหาปริมาณ I2 ที่เกิดขึ้นด้วยสารละลายมาตรฐานโซเดียมไทโอซัลเฟต (Na2S2O3) โดยมีน้ำแป้งเป็นอินดิเคเตอร์ ดังสมการ
I2 + 2S2O32- ↔ 2I– + S4O62-
จากปริมาณสารละลาย Na2S2O3 ที่ใช้ไป สามารถคำนวณกลับไปหาปริมาณของ Cr2O72- ที่เหลืออยู่ในสารละลาย ณ เวลาต่าง ๆ
อุปกรณ์และสารเคมี
อุปกรณ์
- บิวเรต ขนาด 50 mL
- ปิเปต ขนาด 10 mL
- กระบอกตวง
- นาฬิกาจับเวลา
- อ่างน้ำร้อน
- เทอร์โมมิเตอร์
สารเคมี
- สารละลาย KI 3%w/v
- สารละลาย C2H5OH 95%w/v
- สารละลาย K2Cr2O7 0.10 mol/L ใน H2SO4 1.0 mol/L
- สารละลาย Na2S2O3 0.10 mol/L
- น้ำแป้ง 2%w/v
วิธีการทดลอง
ตอนที่ 1 การหาอันดับของปฏิกิริยาระหว่างโพแทสเซียมไดโครเมตกับเอทานอล
- ตวงสารละลาย K2Cr2O7 10 mL (ใช้กระบอกตวง) ใส่ลงในบีกเกอร์ 100 mL ที่บรรจุน้ำกลั่นอยู่ 5 mL วัดอุณหภูมิของสารละลาย
- เตรียมบีกเกอร์ 10 ใบ แต่ละใบให้เติมสารละลาย KI 5 mL
- เติมเอทานอล 2 mL (40 หยด) ใส่ลงในสารละลาย K2Cr2O7 (ข้อ 1) พร้อมทั้งเริ่มจับเวลาทันที ทำการเขย่าขวดเบา ๆ ตลอดเวลา
- เมื่อเวลาผ่านไป 20 นาที ใช้ปิเปตนำสารละลายมา 1.0 mL (20 หยด) ใส่ลงในบีกเกอร์ (ข้อ 2) บันทึกเวลาที่แน่นอน (เวลา ณ ตำแหน่งที่ปล่อยสารละลายลงไปได้ประมาณครึ่งหนึ่ง แต่อย่าหยุดปล่อยสาร ให้ปล่อยสารลงไปจนหมด) ลงในสมุดบันทึก
- หยดสารละลายมาตรฐาน Na2S2O3 ลงทีละหยด ให้นับจำนวนหยดด้วย (สำคัญมาก) จนกระทั่งสารละลายเปลี่ยนสีจากสีน้ำตาลเป็นสีเหลืองอ่อน แล้วจึงเติมน้ำแป้ง 1-2 หยด เขย่าแล้วหยดสารละลาย Na2S2O3 ต่อจนกระทั่งสารละลายเปลี่ยนจากสีน้ำเงินเป็นไม่มีสี ให้นับจำนวนหยดรวมกัน
- จากนั้นทุก ๆ 2 นาทีผ่านไปให้ทำเช่นเดียวกับข้อ 4 โดยทำการทดลองประมาณ 8-10 ครั้ง ทุกครั้งจะต้องจดเวลาที่แน่นอนไว้ด้วยเสมอ
ตอนที่ 2 การทดลองผลของอุณหภูมิที่มีต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยา
ทำการทดลองเช่นเดียวกับข้อ 5 ทุกประการ แต่ให้ควบคุมอุณหภูมิในขณะทดลองให้สูงกว่าอุณหภูมิห้องประมาณ 10°C (นักศึกษาต้องรู้อุณหภูมิที่แน่นอนว่ากระทำที่อุณหภูมิใด) โดยการจุ่มที่ขวดที่มีสารละลาย K2Cr2O7 ลงในอ่างน้ำร้อนจนได้อุณหภูมิที่ต้องการ แล้วค่อยเติมเอทานอลลงไป พร้อมเริ่มจับเวลาทันที ทุกๆ 1-2 นาที ให้ปิเปตสารละลายไปทดลอง หาปริมาณ K2Cr2O7 ที่เหลือ ในขณะทดลองถ้าหากอุณหภูมิของสารละลายผสมลดต่ำลงก็ให้นำไปจุ่มอ่างน้ำร้อนจนถึงอุณหภูมิที่ต้องการอีก แล้วยกออก ทำการควบคุมอุณหภูมิเช่นนี้เรื่อยไป จนเสร็จสิ้นการทดลอง